Histiocytic Sarcoma (HS) เป็นมะเร็งที่มีความรุนแรงสูง เกิดจากเซลล์ dendritic cells หรือ macrophages ซึ่งเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง HS สามารถแสดงอาการได้ทั้งในรูปแบบของมะเร็งที่เกิดเฉพาะที่หรือแบบแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย โดย Hemophagocytic HS (HHS) ซึ่งเป็น subtype ที่พบได้น้อย เกิดจาก splenic red pulp หรือ bone marrow macrophages ซึ่งมีลักษณะการแพร่กระจายที่รุนแรง HS พบได้บ่อยในสุนัข แต่หายากในสัตว์ชนิดอื่น เช่น แมว
ความชุกของโรคและพันธุ์สุนัขที่เสี่ยง
HS เป็นโรคที่พบได้น้อย โดยพบประมาณน้อยกว่า 1% ของมะเร็งทั้งหมดในสุนัข อย่างไรก็ตาม สุนัขบางสายพันธุ์มีความเสี่ยงทางพันธุกรรมที่สูง ได้แก่:
– Bernese Mountain Dog (BMD)
– Flat-Coated Retriever (FCR)** มีความเสี่ยงสูงเป็นพิเศษต่อการเกิด periarticular HS (PAHS)
– สายพันธุ์อื่นๆ ที่มีความเสี่ยง เช่น Rottweiler, Miniature Schnauzer, และ Pembroke Welsh Corgi
อาการทางคลินิกของ HS
อาการที่แสดงขึ้นอยู่กับว่ามะเร็งอยู่ในบริเวณเดียวหรือแพร่กระจาย
– Localized HS: มักพบที่ผิวหนัง, ม้าม, หรือ ต่อมน้ำเหลือง โดยจะปรากฏเป็นก้อนเนื้อ หากพบที่ข้อจะทำให้เกิด lameness (ขากะเผลก)
– Disseminated HS: เป็นมะเร็งที่แพร่กระจายไปยังหลายอวัยวะ ทำให้เกิดอาการทางระบบต่าง ๆ ได้แก่:
– ปอด: การแพร่กระจายเข้าสู่ปอดจะทำให้เกิดอาการ dyspnea (หายใจลำบาก) และ coughing (ไอ)
– ตับและม้าม: การแพร่กระจายเข้าสู่ตับและม้ามทำให้เกิด hepatosplenomegaly (ตับและม้ามโต) ส่งผลให้มี abdominal distension (ท้องบวม), lethargy (อ่อนแรง), และ weight loss (น้ำหนักลด)
– ไขกระดูก: ทำให้เกิดภาวะ anemia (โลหิตจาง) ซึ่งอาจทำให้เหงือกซีดและมีอาการอ่อนแรง นอกจากนี้ยังพบ thrombocytopenia (ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ) ทำให้มีแนวโน้มเลือดออกง่าย
– ต่อมน้ำเหลือง: เมื่อมะเร็งแพร่กระจายเข้าสู่ต่อมน้ำเหลือง อาจพบการโตของต่อมน้ำเหลืองที่สามารถคลำได้
– สมอง: หากมะเร็งเข้าสู่สมอง จะทำให้เกิดอาการทางประสาท เช่น seizures (ชัก) หรือ ataxia (การสูญเสียการประสานงานของกล้ามเนื้อ)
อาการอื่น ๆ ที่พบได้ในทั้งสองรูปแบบ ได้แก่ อ่อนแรง, ไข้, เบื่ออาหาร, และในกรณีรุนแรง อาจมี collapse (หมดสติ) เนื่องจากความล้มเหลวของอวัยวะ
การวินิจฉัย Histiocytic Sarcoma
1. Cytology และ Histopathology:
การวินิจฉัยมักต้องอาศัยการตัดชิ้นเนื้อเพื่อทำการตรวจ ซึ่งเซลล์มะเร็ง HS มักจะมีขนาดใหญ่และรูปร่างผิดปกติ การตรวจ cytology อาจพบการแบ่งเซลล์ที่สูง จำเป็นต้องตรวจ biopsy เพื่อยืนยันการมีอยู่ของเซลล์มะเร็ง
2. การตรวจภาพถ่าย (Imaging):
การถ่ายภาพด้วย X-rays, ultrasounds, CT scans, หรือ MRIs สามารถช่วยประเมินขนาดและการแพร่กระจายของมะเร็ง โดยเฉพาะในปอดและอวัยวะเช่น ตับและม้าม
3. การตรวจทางห้องปฏิบัติการ (Laboratory Tests):
การตรวจเลือดมักพบ anemia, thrombocytopenia, และเอนไซม์ตับสูง การแพร่กระจายเข้าสู่ไขกระดูกอาจทำให้เกิด pancytopenia (จำนวนเซลล์เม็ดเลือดทุกชนิดลดลง) และ hyperferritinemia (เฟอร์ริตินในเลือดสูง) ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการมีอยู่ของ HS
ทางเลือกการรักษา Histiocytic Sarcoma
1. การผ่าตัด (Surgery):
สำหรับเนื้องอกที่เกิดเฉพาะที่ การผ่าตัด เป็นวิธีการรักษาหลัก ซึ่งอาจรวมถึงการ amputation (ตัดขา) ในกรณีของ periarticular HS, splenectomy (การตัดม้าม), หรือ lung lobectomy (การตัดปอด) แต่อัตราการแพร่กระจายยังคงสูง (เช่น 91% ในกรณี periarticular HS) ดังนั้นการผ่าตัดเพียงอย่างเดียวมักไม่สามารถรักษาได้ในระยะยาว
2. การฉายรังสี (Radiation Therapy):
การฉายรังสีแบบ palliative (บรรเทาอาการ) สามารถใช้ในการจัดการกับเนื้องอกที่ไม่สามารถผ่าตัดได้หรือในบริเวณที่ละเอียดอ่อน เช่น ข้อ การฉายรังสีสามารถช่วยยืดอายุขัยและปรับปรุงคุณภาพชีวิต โดยการฉายรังสีร่วมกับ เคมีบำบัด (chemotherapy) ทำให้มีเวลารอดชีวิตเฉลี่ยประมาณ 7 เดือน
3. เคมีบำบัด (Chemotherapy):
– Lomustine (CCNU): เป็นยาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษา HS โดยมีอัตราการตอบสนองอยู่ระหว่าง 29% ถึง 46% และในสุนัขที่ทำการผ่าตัดร่วมกับ lomustine จะมีระยะเวลารอดชีวิตเฉลี่ย 19 เดือน
– Doxorubicin: เมื่อใช้ร่วมกับ lomustine จะเพิ่มอัตราการตอบสนองเป็น 58% และชะลอการลุกลามของมะเร็งได้นานประมาณ 6 เดือน
– ยาอื่นๆ เช่น dacarbazine, epirubicin, และ vinorelbine ถูกใช้เป็นยาสำรองในกรณีที่การรักษาแรกไม่สำเร็จ
4. การดูแลแบบประคับประคอง (Palliative Care):
ในกรณีที่ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีการรุกรานได้ อาจใช้ corticosteroids เพื่อลดอาการ แต่การใช้ corticosteroids มีความเกี่ยวข้องกับการรอดชีวิตที่สั้นลง
การพยากรณ์โรคในสุนัขที่เป็น Histiocytic Sarcoma
การพยากรณ์โรคของ HS ขึ้นอยู่กับว่ามะเร็งเป็นแบบเฉพาะที่หรือแพร่กระจาย
– Localized HS: สุนัขที่ทำการผ่าตัดร่วมกับเคมีบำบัดมีระยะเวลารอดชีวิตเฉลี่ยประมาณ 1 ปี สำหรับ periarticular HS ระยะเวลารอดชีวิตเฉลี่ยอยู่ที่ 13 เดือน
– Disseminated HS: การพยากรณ์โรคแย่กว่ามาก โดยมีระยะเวลารอดชีวิตเฉลี่ยเพียง 4.2 เดือน Hemophagocytic HS (HHS) ซึ่งเป็นรูปแบบที่รุนแรงที่สุด มีเวลารอดชีวิตระหว่างไม่กี่วันถึง 1–2 เดือน แม้ว่าจะได้รับการรักษา
ปัจจัยที่ทำให้พยากรณ์โรคแย่ลง ได้แก่ การใช้ corticosteroids, anemia, thrombocytopenia, และ hypoalbuminemia โดยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับ HHS ซึ่งทำให้เวลารอดชีวิตสั้นลง
สรุป
Histiocytic Sarcoma เป็นมะเร็งที่มีความรุนแรงสูงและพบได้บ่อยในสุนัข โดยสุนัขสายพันธุ์ Bernese Mountain Dog และ Flat-Coated Retriever มีความเสี่ยงสูง การตรวจพบในระยะเริ่มต้นและการรักษาด้วยการผ่าตัด, การฉายรังสี, และเคมีบำบัดสามารถช่วยยืดอายุขัยได้ โดยเฉพาะในกรณีที่มะเร็งเกิดเฉพาะที่ อย่างไรก็ตาม มะเร็งแบบแพร่กระจายมีการพยากรณ์โรคที่แย่ลงอย่างมาก การเฝ้าระวังและการวางแผนการรักษาที่ครอบคลุมเป็นสิ่งสำคัญในการจัดการกับโรคนี้